Considerations To Know About เศรษฐกิจเวียดนาม
Considerations To Know About เศรษฐกิจเวียดนาม
Blog Article
การปรับประมาณการกำไรอ่อนแอกว่าหุ้นโลก
‘เลเลฟอง’ ร้านอาหารฝรั่งเศสอารมณ์ศิลป์กลิ่นไอไทย ‘เชียงใหม่’
นอกจากนี้จะส่งเสริมการเติบโตจากการลงทุน การบริโภค และการส่งออก ตลอดจนแรงผลักดันใหม่จากการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและสีเขียว ควบคู่ไปกับการเร่งการปฏิรูปการบริหารและปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน
ผู้บริหารยูโอบีมองว่าแม้ปัจจุบันเวียดนามจะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับการลงทุนในอาเซียนอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่มีโอกาสในการลงทุน
เวียดนามเป็นอีกหนึ่งประเทศดาวรุ่งที่เติบโตโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือแม้แต่การท่องเที่ยวที่เริ่มกลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายของเวียดนาม จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเวียดนามถึงกลายเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนและโอกาสการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย
“เสถียรภาพทางการเมือง เสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค ความมั่นคงของตลาดการเงิน และความสามัคคีทางสังคม เป็นข้อได้เปรียบของเวียดนามในช่วงนี้ ซึ่งหมายความว่าเวียดนามมีความเสี่ยงต่ำ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่มีเสถียรภาพและคาดการณ์ได้”
เมื่อใดที่การเมืองกับตำรวจตัดไม่ขาด เมื่อนั้นแรงจูงใจในการพัฒนาองค์กรอาจไม่มากเท่าการวิ่งเต้นตำแหน่ง
เวียดนาม อนาคตศูนย์กลางการลงทุนแห่งเอเชีย? เปิดจุดแข็ง จุดเสี่ยง โอกาส
นอกจากนี้ ยังมีการให้สิทธิพิเศษด้านการลงทุนชาวต่างชาติอย่างน่าดึงดูดใจ โดยกระบวนการในการติดต่อทำธุรกิจในเวียดนามค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากทางการเวียดนามกระจายอำนาจให้แต่ละจังหวัดสามารถอำนวยความสะดวกได้เต็มที่ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนชาวต่างชาติ โดยจะคิดเป็นดัชนีวัดความสำเร็จของแต่ละจังหวัดอีกด้วย
"ถ้าฝนกลับมาเร็ว ต้นกาแฟควรจะมีสุขภาพสมบูรณ์พอและการออกดอกก็น่าจะดี"
นอกจากนี้แม้ว่าเวียดนามจะเผชิญกับความท้าทายบางประการ เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ค่าเงินที่ผันผวน และอุปสงค์โลกที่ซบเซา เศรษฐกิจเวียดนาม แต่ปัจจัยบวกต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นบ่งชี้ว่าเวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าจับตามองและมีศักยภาพในการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้ว่าผู้ส่งออก[กาแฟ]ในโคลอมเบีย เอธิโอเปีย เปรู และยูกันดา จะขยับการส่งออกมากขึ้น แต่พวกเขาก็ผลิตกาแฟได้ไม่เพียงพอที่จะกับความต้องการในตลาด
ทว่าชาวสวนกาแฟในเวียดนามก็กลับเผชิญกับภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคในรอบเกือบสิบปี
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญมาก เพราะภาคการผลิตที่มาลงทุนในเวียดนามต้องการความมั่นใจว่า พวกเขาจะได้รับสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเหล่านี้ ที่ประเทศอื่นๆ “ไม่มี”และในปีที่แล้วเวียดนามยังเป็นเพียงประเทศเดียวที่สามารถเปิดบ้านต้อนรับการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้